เรื่องจริงของเรามันเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว มันเป็นเหตุการณ์ซึ่งเราไม่เคยคิดว่าจะเกิดกับเราได้ แต่มันก็เกิดขึ้นมาแล้ว ตอนนั้นเรา อายุ 25 ปี แต่งงานแล้ว เราและสามีเป็นคนจีนทั้งครอบครัวเราและสามีค่อนข้างมีฐานะเราจึงแยกตัวมาทำธุรกิจส่วนตัวกับสามีโดยมาเปิดปั้มน้ำมันแถวๆปทุมธานี ซึ่งเราก็ช่วยสามีดูแลโดยเราขายของในมินิมาร์ดและเก็บเงินอยู่ในปั้ม ส่วนสามีก็จะไปติดต่องานข้างนอกกว่าจะกลับก็เย็นๆเกือบทุกวัน ในปั้มเรามีเด็กอยู่8คนส่วนมากมาจากภาคอีสาน ก่อนที่เราจะแต่งงานสมัยเรียนที่มหาลัย เราเคยมีแฟนอยู่คนหนึ่ง แล้วก็เคยได้เสียกันมาแล้ว หลังจากที่เราแต่งงานไปได้ไม่ถึงปี แฟนเก่าคนนี้ก็พยายามมาตื้อขอคืนดี ทั้งๆ เราแต่งงานแล้ว พอแฟนเก่ามาตื้อ เราก็พยายามปฏิเสธมาตลอด ไม่ยอมไปเจอ ไม่ยอมคุยด้วย แต่เขาก็ไม่ยอมเลิก เรารำคาญมากและกลัวจะมีปัญหา ในที่สุดวันหนึ่งก็เลยยอมไปตามนัด กะว่าจะคุยให้รู้เรื่องจะได้เลิกมายุ่งซะที วันนั้นก็นัดกับแฟนเก่าตอนเช้าไปกินข้าวกัน แล้วก็คุยกัน จนในที่สุดแฟนเก่ายังไงก็ไม่ยอมเลิก เราเลยโมโหมาก ในที่สุดก็ทะเลาะกัน เราเลยวิ่งหนีออกมา แฟนเก่าก็วิ่งตามตื้อ ง้อกันอยู่เกือบชั่วโมง ในที่สุดเราก็ใจอ่อน ไม่โกรธ แล้วก็เริ่มคุยดีกัน จับมือจับไม้ แล้วในที่สุดก็ลงเอยกันที่โรงแรม พอเสร็จแล้ว เราก็รู้สึกผิด แล้วก็โกรธอีกครั้ง พออาบน้ำเสร็จก็วิ่งหนีออกมา แฟนเก่าก็รีบตามออกมา แต่เราเห็นมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งจอดอยู่หน้าทางเข้าโรงแรมพอดีเรานึกว่าเป็นมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ก็เลยขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์คันนั้นออกไป แต่โชคร้ายที่ไม่ทันดูให้ดีก่อน เพราะ มอเตอร์ไซด์คันนั้นเป็นของเด็กจากปั้มน้ำมันของเราเอง แล้วคนขับก็เป็นเด็กในปั้มเราด้วย คนขับชื่อนายชา อายุ 21ปี อ่อนกว่าเรา4 ปีได้ เป็นลูกของคนงานที่โรงงานเพื่อนสามีเค้าฝากมาก็เลยรู้จักทั้งสามีของเราและเราดีพอสมควร พื้นแพนายชาเป็นคนจังหวัดสุรินทร์ร่างกายล่ำสัน นายชาจะเรียกเราว่าซ้อ และเรียกสามีเราว่าเสี่ย พอขึ้นได้สักพัก เราบอกให้จอดแล้วถามว่าเท่าไหร่ มันก็หันหน้ามาพอเราเห็นมัน เราตกใจมาก แต่พยายามทำเป็นเฉยๆ ไม่รู้เรื่องอะไร นายชาเลยทักออกมาก่อนว่า "ซ้อไปทำอะไรในนั้นหรอ ไอ้คนนั้นมันใคร" เราบอกว่า "ไม่มีอะไรหรอก เธอไม่ต้องรู้หรอกชา" นายชาเลยบอกว่า "ซ้อไม่บอกไม่เป็นไร เดี๋ยวผมถามเสี่ยก็ได้" เรารู้ตัวว่าจะต้องถูก แบ็คเมล์ แน่ เลยขอร้องนายชา "นี่เธออย่าไปบอกเสี่ยนะ" พร้อมทั้งควักเงินให้นายชาห้าร้อย นายชาหัวเราะ "โธ่ซ้อผมไม่เอาเงินซ้อหรอก ผมขออย่างอื่นได้มั้ย" เราก็เริ่มสงสัยแล้วแต่ไม่แน่ใจ "เธอจะเอาอะไรก็ให้มันพอสมควรนะ" "ผมขอซ้อทีหนึ่งละกัน" นายชาบอก จริงๆ เราก็เริ่มรู้ตั้งแต่นายชาบอกไม่เอาเงินแล้ว ตอนนั้นเราคิดไม่ตกจริงๆ ไม่รู้จะทำยังไง และเราก็รู้สึกว่าเมื่อตะกี๊ก็เสียตัวให้ชายอื่นที่ไม่ใช่สามีไปแล้ว ถ้าเสียอีกทีคงไม่เป็นอะไรมาก ในที่สุดเลยต้องยอม "แค่ครั้งเดียวนะ ถ้าเธอตอแย ฉันเอาไงก็เอากันนะ" นายชาก็เลยขับพาเราไปที่โรงแรมอีกแห่งหนึ่ง พอเข้าห้องก็สั่งเบียร์มาดื่ม แล้วก็ให้เราดื่มย้อมใจด้วย ตอนนั้นก็บ่ายโมงแล้ว เราต้องกลับไปเฝ้าปั้มตอนบ่ายเพราะฝากคนงานเก่าดูแค่ช่วงเช้าเท่านั้น แต่นายชากินเบียร์ไปสองแก้วแล้วก็ยังไม่ทำอะไร เราก็เลยรำคาญบอกว่า "นี่ รีบเถอะ เดี๋ยวฉันต้องรีบกลับไปปั้มนะ" "ไม่ต้องใจร้อนหรอกซ้อ รับรองซ้อไม่ผิดหวังแน่" นายชานั่งลงบนเตียงขณะที่เรายืนถือแก้วเบียร์อยู่ที่มุมห้อง "ถ้าซ้อใจร้อนเริ่มเลยก็ได้ ซ้อถอดเสื้อผ้าออกสิ" เราก็เตรียมใจไว้แล้ว เลยว่างแก้วเบียร์ลงบนโต๊ะ แล้วถอดเสื้อผ้าออกต่อหน้าต่อตานายชาจนเหลือแต่ชุดชั้นใน เราถือว่าเป็นคนสวยทีเดียวเพราะตอนเรียนเราเป็นดาวของโรงเรียน ทั้งเพื่อนหญิงเพื่อนชายชมเราว่าหน้าตาสวยมาก ผิวขาวเนียน แทบไม่มีรอยแผลหรือไฝเลย แต่หน้าอกกับสะโพกไม่ใหญ่มาก "ซ้อผิวสวยจัง เสี่ยกับไอ้นั่นโชคดีจัง เออไอ้นั่นมันใครอะซ้อ" นายชาพูดชมเราในขณะที่จ้องมองเราตาไม่กระพริบ เราบอกว่า "เธอไม่ต้องรู้หรอก" นายชาเลยแซวว่า "ท่าทางซ้อจะไวไฟน่าดู"